wiremeshkks.com

ขนาดของ Wire Mesh ที่ได้มาตรฐาน

ขนาดของ Wire Mesh ที่ได้มาตรฐาน

ขนาดของ Wire Mesh ที่ได้มาตรฐาน

ขนาดของ Wire Mesh ที่ได้มาตรฐาน สามารถสร้างตึกสูงได้ ในการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่หรือ ตึกสูง ที่ต้องการความมั่นคงและความปลอดภัยสูง วัสดุแต่ละชนิดที่เลือกใช้ล้วนมีความสำคัญอย่างมาก หนึ่งในองค์ประกอบหลักของโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก คือ เหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) ซึ่งเป็นเหล็กเส้นที่ถูกเชื่อมเป็นตารางด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและได้ระยะห่างของเหล็กที่สม่ำเสมอ การเลือกใช้ขนาดของไวร์เมชที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการรับน้ำหนัก แรงดึง และแรงอัดของโครงสร้างได้โดยตรง Wire Mesh คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรในงานตึกสูง Wire Mesh หรือเหล็กตะแกรงเชื่อม เป็นวัสดุเหล็กเสริมคอนกรีตที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และช่วยลดระยะเวลาในการทำงานก่อสร้าง โดยเฉพาะในงานพื้นอาคาร เสา คาน และผนังของตึกสูง ซึ่งต้องรับแรงทั้งแนวตั้งและแนวนอน เมื่อใช้ไวร์เมชแทนเหล็กเส้นผูกทั่วไป จะช่วยให้การกระจายน้ำหนักของคอนกรีตมีความสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงในการแตกร้าว อีกทั้งยังควบคุมคุณภาพได้ง่ายกว่า เพราะถูกผลิตจากโรงงานที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จึงมั่นใจได้ว่ามีขนาดเส้นลวดและระยะห่างของตารางที่แม่นยำ ขนาดของ Wire Mesh ที่ได้มาตรฐานตาม มอก. ในประเทศไทย มาตรฐานของไวร์เมชอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ มอก. 737-2531 ซึ่งระบุชัดเจนเกี่ยวกับขนาดของลวด ระยะห่างของช่อง และคุณสมบัติของเหล็กที่ใช้ผลิต โดยทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ ลวด 4 มิลลิเมตร ถึง 12 มิลลิเมตร และระยะช่องตารางตั้งแต่ 10×10 เซนติเมตร ถึง 25×25 เซนติเมตร ตัวอย่างขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ ได้แก่

  • Wire Mesh 4 มม. @ 20 ซม. เหมาะสำหรับงานพื้นทั่วไป เช่น พื้นบ้านหรืออาคารต่ำ
  • Wire Mesh 6 มม. @ 20 ซม. ใช้ในงานพื้นอาคารสำนักงานหรือคอนโดขนาดกลาง
  • Wire Mesh 8 มม. @ 20 ซม. หรือ 8 มม. @ 15 ซม. ใช้ในงานพื้นหรือคานของอาคารสูง เนื่องจากรับน้ำหนักและแรงดึงได้มาก
  • Wire Mesh 10-12 มม. @ 15 ซม. เหมาะสำหรับโครงสร้างหลักของตึกสูง เช่น พื้นชั้นล่าง เสา และฐานรากที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด

นอกจากนี้ โรงงานที่ผลิตไวร์เมชที่ได้มาตรฐานมักจะรับรองคุณภาพตามเกณฑ์ของ TIS, ISO 9001 และมีใบรับรองผลการทดสอบแรงดึง (Tensile Strength Test) เพื่อยืนยันว่าเหล็กสามารถรับแรงได้ตามค่าที่กำหนดจริง

ขนาดของ Wire Mesh มีผลต่อการสร้างตึกสูง

เหตุผลที่ขนาดของ Wire Mesh มีผลต่อการสร้างตึกสูง ส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างโดยตรง ตึกสูงต้องรับแรงอัดและแรงดึงในหลายทิศทาง การเลือกขนาดไวร์เมชที่เหมาะสมช่วยให้โครงสร้างสามารถรับแรงได้เพียงพอ โดยเฉพาะในส่วนของพื้นและเสา ซึ่งหากใช้ไวร์เมชขนาดเล็กเกินไปอาจเกิดการแตกร้าวหรือทรุดตัวได้ในระยะยาว ช่วยควบคุมการกระจายน้ำหนักของคอนกรีต การใช้ไวร์เมชที่มีช่องตารางสม่ำเสมอช่วยให้คอนกรีตยึดเกาะและกระจายน้ำหนักได้ดี ลดการแตกร้าวเฉพาะจุด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในตึกสูง เพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้าง ไวร์เมชที่ผลิตจากโรงงานจะถูกเชื่อมสำเร็จเป็นแผ่น ทำให้สามารถวางได้รวดเร็ว ประหยัดแรงงาน ลดขั้นตอนการผูกเหล็ก และยังลดโอกาสเกิดความผิดพลาดจากฝีมือคนงาน ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แม้ว่าไวร์เมชขนาดใหญ่จะมีราคาสูงกว่า แต่ด้วยความแข็งแรงและความทนทาน ช่วยลดการซ่อมบำรุงและปัญหาการแตกร้าวในอนาคตได้มาก จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า การเลือกขนาด Wire Mesh ให้เหมาะกับโครงสร้างตึกสูง การเลือกขนาดไวร์เมชควรอยู่ภายใต้การออกแบบของวิศวกรโครงสร้าง ซึ่งจะคำนวณตามน้ำหนักบรรทุก ความสูงของอาคาร และลักษณะการใช้งาน โดยทั่วไปแนวทางการเลือกสามารถสรุปได้ดังนี้

  • อาคารสูงไม่เกิน 10 ชั้น ใช้ไวร์เมชขนาด 6 มม. @ 20 ซม. สำหรับพื้นทั่วไป และ 8 มม. @ 20 ซม. สำหรับส่วนคาน
  • อาคารสูง 10–30 ชั้น ใช้ไวร์เมชขนาด 8 มม. @ 15–20 ซม. ในส่วนพื้น และ 10 มม. สำหรับฐานราก
  • อาคารสูงมากกว่า 30 ชั้น ควรใช้ไวร์เมชขนาด 10–12 มม. @ 15 ซม. เพื่อรองรับแรงอัดและแรงสั่นสะเทือนจากลมและแผ่นดินไหว

ทั้งนี้ การเลือกขนาดควรคำนึงถึง คุณภาพของเหล็ก (Grade) ด้วย เช่น SD40 หรือ SD50 ซึ่งเป็นเกรดที่มีค่ากำลังรับแรงดึงสูง เหมาะกับโครงสร้างขนาดใหญ่

ข้อควรระวังในการใช้งาน Wire Mesh ในงานตึกสูง

ข้อควรระวังในการใช้งาน Wire Mesh ในงานตึกสูง ต้องเป็นไวร์เมชที่ผ่านมาตรฐาน มอก. เท่านั้น เพราะหากใช้ไวร์เมชไม่ได้มาตรฐาน ขนาดเส้นลวดอาจไม่สม่ำเสมอ ทำให้แรงดึงและแรงอัดไม่เป็นไปตามที่ออกแบบ ตรวจสอบการเก็บรักษาและการขนส่ง ไวร์เมชควรถูกเก็บในที่แห้ง ไม่โดนน้ำหรือสนิม เพื่อคงสภาพการยึดเกาะกับคอนกรีต การติดตั้งต้องเป็นไปตามแบบก่อสร้าง ควรวางให้ได้ระยะคอนกรีตหุ้มตามที่วิศวกรกำหนด เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของเหล็กในอนาคต ขนาดของ Wire Mesh ที่ได้มาตรฐาน เป็นปัจจัยสำคัญต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของตึกสูงโดยตรง การเลือกใช้ไวร์เมชที่มีขนาดเส้นลวดเหมาะสม ระยะห่างของช่องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. และผลิตจากเหล็กเกรดดี จะช่วยให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานยาวนาน ปลอดภัย และลดปัญหาความเสียหายในระยะยาว ดังนั้น ในการสร้างตึกสูง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน หรือโรงแรม ควรให้ความสำคัญกับการเลือก ไวร์เมชที่ผ่านมาตรฐาน และได้รับการตรวจสอบจากวิศวกรโครงสร้างเสมอ เพื่อให้ทุกชั้นของอาคารมั่นคง ปลอดภัย และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยั่งยืน

จำหน่ายลวดตาข่าย (หน้า 6), จำหน่ายรั้วตาข่าย (หน้า 4), จำหน่ายรั้วตาข่ายถักปม (หน้า 4), ลวดล้อมคอกสัตว์ (หน้า 4), Wire Mesh (หน้า 3), จำหน่ายตะแกรงเหล็กไวร์เมช (หน้า 3), ไวร์เมช (หน้า 2), ไวร์เมชเทพื้น (หน้า 2), ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (หน้า 2), ตะแกรงเหล็กไวร์เมช Wire Mesh (หน้า 2), ตะแกรงไวร์เมช (หน้า 2)

Wire Mesh, ไวร์เมช, ไวร์เมชเทพื้น, จำหน่ายตะแกรงเหล็กไวร์เมช, จำหน่ายรั้วตาข่าย, จำหน่ายรั้วตาข่ายถักปม, จำหน่ายลวดตาข่าย, จำหน่ายลวดถักปม, ตะแกรงเหล็กไวร์เมช, ตะแกรงเหล็กไวร์เมช Wire Mesh, ตะแกรงไวร์เมช, ตาข่ายกรงไก่, รั้วไร่นา, รั้วตาข่ายถัก Chainlink, รั้วล้อมคอกสัตว์, ลวดตะแกรงตัวหนอน, ลวดล้อมคอกสัตว์, 4@20, 6@20, 9@20

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *